ไม้ดอกไม้ประดับ

พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ


ค้นพบพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับที่น่าสนใจจากศูนย์


21 ตุลาคม 2568
ทิลแอนด์เซีย
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tillandsia spp. ชื่อสามัญ: Tillandsiaวงศ์: BROMELIACEAE      ไม้อิงอาศัยอายุหลายปี มีรากอากาศเพื่อยึดเกาะกับกิ่งไม้หรือขอนไม้ ลำต้น ทอดเลื้อยและแตกกิ่งห้อยลง สามารถแตกหน่อได้ ใบออกเวียนรอบต้นเป็นรัศมี รูปแถบแบน รูปเส้นเรียวแหลม หรือรูปสามเหลี่ยม บางชนิดแผ่นใบหนาแข็ง บิดม้วนเป็นเกลียวทั่วทั้งต้น ใบมีไทรโคม (trichrome) ปกคลุม ทำหน้าที่ดูดซับความชื้นและสารอาหารแทนราก เมื่อออกดอกยอดอ่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม หรือม่วง ช่อดอกแทงจากกลางพุ่มต้น มี 3 รูปทรง คือ รูปหลอด รูปเข็ม รูปแตร มักออกดอกช่วงฤดูหนาว ฝัก เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แห้งและแตกออก ภายในมีแพปพัส (pappus) เป็นเส้นใยสามารถปลิวตามลมเพื่อกระจายพันธุ์ การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ดและแยกหน่อการใช้งานและอื่นๆ: นิยมนำมาเกาะขอน และทำไม้แขวนประดับ
21 ตุลาคม 2568
พุดพิชญา
ชื่อวิทยาศาสตร์: Wrightia antidysenterica  (L.) R. Br. ชื่อสามัญ: - วงศ์: APOCYNACEAE  เป็นพันธุ์ไม้พุ่มต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในศรีลังกา สูงประมาณ 1.5 - 2 เมตร กิ่งก้านมีสีน้ำตาลแดง  ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นคู่ รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนมน ขอบเรียบ ผิวด้านบนสีเขียวเข้ม ผิวด้างล่างสีเขียวอ่อน ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ ตามซอกใบที่ปลายกิ่ง ดอกสีขาว ช่อละ 5 - 6 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อนปนเหลือง โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดแคบ ปลายแยกเป็น 5 แฉก เกสรตรงกลางสีเหลือง มีรยางค์เป็นแผ่นรูปแถบแข็ง ปลายแยกเป็นริ้ว 2 - 5 ริ้ว   การขยายพันธุ์: ปักชำ การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้กระถาง ตกแต่งประดับสวน
21 ตุลาคม 2568
พุดศุภโชค
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardenia jasminoides ชื่อสามัญ : - วงศ์ : RUBIACEAE ชื่ออื่น : พุดศรีลังกา/ พุดแคระ ไม้พุ่มเตี้ย เป็นพันธุ์ไม้ต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดในประเทศศรีลังกา ความสูง 1 - 3 เมตร แตกกิ่งก้านออกใบรอบต้น  ใบเดี่ยว แตกเป็นคู่ตรงกันข้าม ตามข้อของกิ่ง รูปมนรี ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวเรียบเป็นมัน สีเขียว ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อย 5 - 7 ดอก ดอกสีขาว โคนดอกเป็นหลอด ปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ รูปไข่ ปลายกลีบมัน การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับ
21 ตุลาคม 2568
ลิลี่
ชื่อวิทยาศาสตร์: Lilium spp. ชื่อสามัญ: Lily วงศ์: LILIACEAE ไม้ดอกอายุหลายปี มีหัวคล้ายหัวกระเทียม (scaly bulb) มีหัวย่อยที่สามารถดึงหรือแยกออกจากกันง่าย ต้นเป็นพุ่มเตี้ยอยู่เหนือดินเล็กน้อย เมื่อถึงเวลาออกดอกต้นจะยืดสูงขึ้นมา ใบมีทั้งรูปแถบเรียวยาว รูปไข่กลับคล้ายรูปหัวใจ ออกเวียนสลับ มีใบติดอยู่ตลอดก้านช่อดอก ช่อดอกแบบช่อกระจะ มีกลิ่นหอม ดอกมีสีขาว เหลือง ส้ม ชมพู แดง และม่วง มีหลายแบบ เช่น รูปปากแตร บางชนิดดอกบานเป็นรูปจาน บางชนิดหน้าดอกตั้งขึ้น บางชนิดหน้าดอกห้อยลง ขยายพันธุ์: แยกหัวย่อยไปปักชำจะเกิดต้นใหม่ที่ฐานกลีบด้านในการใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้ประดับแปลง ไม้กระถาง ไม้ตัดดอก   ในพิธีแต่งงานนิยมใช้ดอกลิลี่เป็นช่อดอกไม้ของเจ้าสาว และใช้ในพิธีอื่น ๆ ในศาสนาคริสต์ เนื่องจากลิลี่เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ชื่อสกุลมาจากคำในภาษาละตินว่า leirion ซึ่งเป็นคำที่ทีโอฟราสตัส นักปราชญ์ชาวกรีกเรียก Madonna Lily นอกจากนี้ในนิยายปรัมปรากล่าวว่า ลิลี่ถือกำเนิดจากหยาดน้ำตาของอีฟเมื่อต้องออกมาจากสวนอีเดน
21 ตุลาคม 2568
เล็บมือนาง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Combretum indicum (L.) DeFilipps ชื่อสามัญ: Rangoon Creeper/ Chinese honey Suckle/ Drunken sailor วงศ์: COMBRETACEAE ชื่ออื่น: จะมั่ง จ๊ามั่ง มะจีมั่ง (เหนือ)/ อะดอนิ่ง (มลายู ยะลา) มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อน เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เนื้อค่อนข้างแข็ง แตกกิ่งก้านหนาทึบ มีขนสีน้ำตาลอมเทา กิ่งแก่มีหนาม เลื้อยได้ไกลมากกว่า 10 เมตร ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปใบหอกหรือแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลมหรือเรียวแหลมหรือมนและมีติ่งแหลม โคนมนหรือกลม ขอบเรียบ ใบบาง สีเขียว ใต้ใบมีขนปกคลุมจำนวนมาก  ช่อดอกออกที่ปลายกิ่งหรือตามซอกใบ กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ปลายแหลมแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดรูปทรงกระบอกยาว ปลายแยกเป็น 5 แฉก มีทั้งกลีบดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ดอกเริ่มบานมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน ดอกบานเต็มที่สีชมพูเข้ม มีกลิ่นหอม  ดอกย่อยทยอยบาน เมื่อใกล้โรยเปลี่ยนเป็นสีแดง การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกประดับเป็นซุ้มหรือรั้ว ริมทางเดิน
21 ตุลาคม 2568
รสสุคนธ์แดง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tetracera indica (Christm. & Panz.) Merr. ชื่อสามัญ: Sand Paper Vine วงศ์: Dilleniaceae ชื่ออื่น:  เครือปด/ เถาอรคนธ์/ ปดลื่น/ ย่านปด ไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ ลำต้นเลื้อยได้ไกล 5 - 8 เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้ม ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปรีถึงรูปขอบขนาน ปลายแหลม ขอบใบจักซี่ฟัน โคนใบมนหรือสอบ แผ่นใบหนาแข็งสีเขียวเข้ม ผิวสาก เส้นใบย่อยเป็นร่องลึก ดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด มี 3 - 8 ดอก กลีบเลี้ยงหนาสีแดงเรื่อ มี 4 กลีบ ห่อเข้าหากัน กลีบดอกสีขาว 3 - 5 กลีบ เกสรเพศผู้จำนวนมาก โคนก้านชูเกสรสีขาว ปลายสีแดงเรื่อ อับเรณูสีเหลือง เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 1 เซนติเมตร มีกลิ่นหอมตลอดวัน ออกดอกเดือนพฤษภาคม ถึงกันยายน ผลรูปไข่แบน ปลายมีติ่งแหลม เมื่อแก่แตกออกเห็นเมล็ดสีดำ มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่งการใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้เลื้อยกระถางประดับรั้ว หรือซุ้มประตู  
21 ตุลาคม 2568
แสงจันทรา
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dieffenbachia sp. ชื่อสามัญ: Dumbcane/ Diffenbachia วงศ์: ARACEAE     ไม้ล้มลุก มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของอเมริกาใต้และแถบหมู่เกาะอินดิสตะวันตก ความสูง 0.8 - 1.2 เมตร ลำต้น ทรงกระบอก อวบน้ำ ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่ถึงรูปไข่กว้าง ปลายติ่งแหลม โคนมนหรือตัด ขอบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบหนาคล้ายแผ่นหนัง เป็นร่อง เกลี้ยง เป็นมัน แผ่นใบสีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม ใบอ่อนสีเหลือง ขอบใบสีเขียวเข้มตลอดแนวความยาว ก้านคล้ายรูปทรงกระบอกเป็นร่อง สีเขียว โคนหุ้มลำต้น เส้นกลางใบและเส้นใบสีขาว ด้านใต้ใบตามเส้นใบเป็นสัน เส้นกลางใบนูนเด่นชัดบริเวณโคนและค่อยๆเล็กลงจนสุดปลายใบ ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ ออกบริเวณซอกใบ ดอกสีขาว ดอกมีกลิ่นแรง ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ต้องการน้ำปริมาณปากลาง แสงแดดปานกลางถึงมาก การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำต้น แยกกอ หรือหน่อการใช้ประโยชน์: ปลูกเป็นไม้กระถาง วางประดับในอาคาร เป็นไม้มงคล
21 ตุลาคม 2568
หญ้าน้ำพุ
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pennisetum setaceum (Forssk.) Chiov. ชื่อสามัญ: Fountain Grass วงศ์: POACEAE (GRAMINEAE)   ไม้ล้มลุกประเภทหญ้า อายุหลายปี เจริญเป็นพุ่มแน่น ความสูง 60 – 90 เซนติเมตร ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ รูปแถบเรียวยาว มีขนเล็กๆ ปกคลุมแผ่นใบ ปลายใบลู่ลงพื้น สีเขียวอ่อน ช่อดอกสีขาวออกที่ปลายยอด ชูตั้งขึ้น สูง 25 – 30 เซนติเมตร ผลมีขนาดเล็ก เจริญเติบโตเร็ว   การขยายพันธุ์: แยกกอ การใช้งานและอื่นๆ: นิยมปลูกลงแปลงกลางแจ้งในสวนโมเดิร์น ช่วยเพิ่มมิติให้สวน
21 ตุลาคม 2568
อกาแพนทัส
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Agapanthus ‘Headbourne Hybrids’ ชื่อสามัญ: Agapanthus/ African Lily/ Lily of the Nile วงศ์ :  AGAPANTHACEAE ชื่ออื่น: แอฟริกันลิลี่      ไม้ดอกอายุสั้นหรือ 2 ปี มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ความสูง  0.45 - 1 เมตร ลำต้นอวบน้ำ มีหัวใต้ดิน ใบ รูปแถบยาวคล้ายดาบ แผ่นใบหนา อวบน้ำ ใบสีเขียวสดหรือสีเขียวอมเทา ดอกออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม ก้านช่อดอกยาว 30 - 60 เซนติเมตร ดอกย่อยรูปกรวย ปลายแยกเป็น 6 กลีบ เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 3 เซนติเมตร กลีบดอกสีขาว ม่วง และฟ้า เมล็ด สีดำแบนมีปีก การขยายพันธุ์: แยกหัวปลูก เพาะเมล็ดโดยไม่กลบเมล็ด การใช้งานและอื่นๆ: ชื่อสกุล Agapanthus มาจากภาษากรีกว่า Agape แปลว่า รัก และ Anthos แปลว่า ดอกไม้ รวมความได้ว่า “ดอกไม้แห่งความรัก” 
21 ตุลาคม 2568
แฮปปี้เนส
ชื่อวิทยาศาสตร์: Podranea ricasoliana (Tanfani) Sprague ชื่อสามัญ: Pink trumpet vine/ Port St. John’s creeper วงศ์: BIGNONIACEAE ชื่ออื่น: ชมพูฮาวาย/ โพดราเนีย        เป็นพันธุ์ไม้ต่างประเทศ มีกำเนิดในแอฟริกาใต้ ไม้พุ่ม สูง 2 - 5 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก กิ่งสีเขียวค่อนข้างเหนียว ใบ ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ มีใบย่อย 5 - 11 ใบ รูปไข่ ปลายแหลม โคนสอบ ขอบบิดเป็นคลื่น ผิวด้านบนสีเขียวเป็นมัน ดอก เป็นช่อแบบช่อกระจุกแยกแขนง ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อละ 5 - 10 ดอก ดอกรูปแตร โคนกลีบสีเหลืองอ่อนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยก 5 แฉก ดอกสีชมพูอมม่วงและมีเส้นสีแดงชัดเจน ปลายกลีบมนหยักเล็กน้อย ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี แสงแดดเต็มวัน   การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกประดับในสวนเป็นกลุ่ม แล้วตัดแต่งเป็นพุ่ม
21 ตุลาคม 2568
โฮย่า
ชื่อวิทยาศาสตร์: Hoya spp. ชื่อสามัญ: Hoya Carnosa/ Porcelain Flower/ Wax Plant วงศ์: APOCYNACEAE      ไม้เลื้อยอายุหลายปี ลำต้นเลื้อยพัน รากออกตามลำต้น ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม มีรูปร่างหลายแบบ ทั้งรูปกลม รูปหัวใจ รูปไข่ รูปขอบขนาน บางชนิดแผ่นใบหนาอวบน้ำหรือมีขนปกคลุม ขนาด 0.2 - 20 เซนติเมตร ดอกเป็นช่อซี่ร่มออกที่ซอกใบห้อยลง ก้านช่อดอกยาว แต่ละช่อมี 10 - 30 ดอก ดอกสมบูรณ์เพศ มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน กลีบหนาคล้ายขี้ผึ้ง ผิวเกลี้ยงเป็นมันหรือมีขน กลางดอกมีมงกุฎ 5 แฉก มีทั้งชนิดดอกบานกลางวัน และดอกบานกลางคืน ผลเป็นฝักคู่ กลม เรียวยาว เมื่อแก่จะแตก มีเมล็ดจำนวนมาก ปลายเมล็ดมีพู่ขน ชอบดินโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่ผุพังเร็ว เช่น กาบมะพร้าวสับ การขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง โดยตัดให้มีข้อใบติดอยู่ 2 - 3 ข้อการใช้งานและอื่นๆ: นิยมทำเป็นไม้กระถางแขวน